ผู้เรียบเรียง รองศาสตราจารย์ ดร.วิศปัตย์ ชัยช่วย ผู้ช่วยคณดีฝ่ายบัณฑิตศึกษาอนาคต
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เนื้อหา
1.ความหมายและความสำคัญ
2.ลักษณะและองค์ประกอบ
3.กระบวนการ
4.การพัฒนาทักษะ
5.อ้างอิง
1.ความหมายและความสำคัญ
การคิด เป็นกลไกทางสมองตามธรรมชาติของมนุษย์ จากการที่สมองรับข้อมูลจากสิ่งแวดล้อม สังคมและประสบการณ์ดั้งเดิมของมนุษย์ ด้วยประสาทสัมผัสต่างๆ ทำให้เกิดกระบวนการจำแนกรายละเอียด การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งข้อมูลอาจเป็นแบบรูปธรรมหรือนามธรรม เกิดการแปลความหมายของข้อมูล สรุป อ้างอิง สร้างแนวความคิดรวบยอด ตลอดจนเป็นกระบวนการที่เกี่ยวกับการนำกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีเหตุผลและเหมาะสม การคิดนี้ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องง่ายๆไปจนถึงเรื่องที่มีความซับซ้อน
สภาความเป็นเลิศแห่งชาติด้านการคิดเชิงวิพากษ์ (The National Council for Excellence in Critical Thinking) ให้นิยามของ การคิดเชิงวิพากษ์ ว่า เป็นกระบวนการทางปัญญาอย่างมีวินัย ในการคิด นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และ/หรือประเมินสารสนเทศที่รวบรวมหรือสร้างขึ้นจากการสังเกต ประสบการณ์ การสะท้อน การให้เหตุผล หรือการสื่อสารอย่างกระตือรือร้นและมีทักษะ เพื่อเป็นแนวทางไปสู่ความเชื่อและการ กระทำ (Foundation for Critical Thinking, 2022)
พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ร่วมสมัย ฉบับสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (2558) นิยามความหมายของ การคิดเชิงวิพากษ์ หรือ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ คือ หลักการคิดประเภทหนึ่งที่เน้นกระบวนการพิจารณาและประเมินข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่คิดทุกด้านอย่างรอบคอบ โดยใช้เกณฑ์ที่กำหนด หลักเหตุผล จนได้คำตอบที่เหมาะสมหรือดีที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจ หรือประเมิน หรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เป็นกระบวนการคิดที่มีปัญญาเป็นตัวนำ
กล่าวโดยย่อ การคิดเชิงวิพากษ์ คือ ความสามารถในการการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศ ข้อเท็จจริง หลักฐาน สถานการณ์ ข้อสังเกต และข้อโต้แย้งที่มีอยู่เพื่อประกอบการตัดสินใจ หรือกำหนดวิธีการตอบสนองต่อปัญหา อีกนัยหนึ่ง คือการกำกับตนเอง มีวินัยในตนเอง ตรวจสอบตนเอง และคิดแก้ไขตนเอง อีกด้วย
การคิดเชิงวิพากษ์ เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตและการทำงานในศตวรรษที่ 21 ดังจะเห็นได้จาก ภาคีเพื่อทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 หรือ P21 (The Partnership for 21st Century Skills, 2022) กำหนดให้ การคิดเชิงวิพากษ์ เป็นหนึ่งใน 4C ตามกรอบการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (21st Century Learning Framework) ได้แก่ 1.Creativity-ความคิดสร้างสรรค์, 2.Critical thinking-การคิดเชิงวิพากษ์, 3.Communication-การสื่อสาร และ 4.Collaboration-ความร่วมมือ ซึ่งการเรียนรู้และพัฒนาทักษะดังกล่าวจะทำให้ผู้เรียนให้มีคุณภาพและประสบความสำเร็จเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21
ขณะที่รายงานวิเคราะห์และคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงในโลกของการทำงาน เรื่อง The Future of Jobs Report 2020 โดย สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum, 2020) ระบุว่า การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา เป็นทักษะอันดับต้นๆ ที่นายจ้างทั่วโลกเชื่อว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นในปี ค.ศ.2025 โดยทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ เป็นสิ่งที่ทุกภาคอุตสาหกรรมเห็นว่ามีความสำคัญติดลำดับ 1 ใน 10 ของทักษะการทำงานที่จำเป็นสำหรับยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 มาตั้งแต่การคาดการณ์ในปีค.ศ.2015 (ลำดับที่ 4) ปีค.ศ.2020 (ลำดับที่ 2) ปีค.ศ.2025 (ลำดับที่ 4)
การทำงานยุคใหม่ ต้องการกำลังคนที่มีความคิดเชิงวิพากษ์ เพราะคนเหล่านี้สามารถเปลี่ยนข้อมูลและสารสนเทศให้เป็นการกระทำได้ ช่วยทีมในการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถมองเห็นต้นตอของปัญหาที่แท้จริง สามารถหาทางแก้ไขได้อย่างตรงจุด ตลอดจนเปิดรับแนวคิดใหม่ๆ พัฒนาความคิดในการเติบโตไปข้างหน้าได้ และเพิ่มความสามารถในการวางแผนการทำงานที่ดี การคิดเชิงวิพากษ์จึงเป็นทักษะสำคัญที่จะทำให้การเรียนรู้ การทำงาน การสร้างนวัตกรรม มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.องค์ประกอบและลักษณะ
องค์ประกอบสำคัญของการคิดเชิงวิพากษ์ มีดังนี้ (Beyer, 1995)
- เกณฑ์ (Criteria): ในการคิดอย่างมีวิจารณญาณต้องใช้เกณฑ์เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง การยืนยันต้องตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ถูกต้อง อ้างอิงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ แม่นยำ ไม่ลำเอียง ปราศจากการเข้าใจผิดเชิงตรรกะ มีเหตุผลสอดคล้องกัน แม้ว่าจะมีข้อโต้แย้งว่าแต่ละสาขาวิชามีเกณฑ์ที่แตกต่างกัน แต่มาตรฐานบางอย่างก็ใช้กับทุกวิชา
- การโต้แย้ง (Argument): เป็นคำแถลงหรือข้อเสนอที่มีหลักฐานสนับสนุน การคิดเชิงวิพากษ์เกี่ยวข้องกับการระบุ ประเมิน และสร้างข้อโต้แย้ง
- การใช้เหตุผล (Reasoning): เป็นความสามารถในการอนุมานหาข้อสรุปจากข้อมูลหนึ่งหรือหลายแหล่ง ในการทำเช่นนั้นจำเป็นต้องตรวจสอบความสัมพันธ์เชิงตรรกะระหว่างข้อมูล
- มุมมอง (Point of View): คือ วิธีที่เรามองโลก นักคิดเชิงวิพากษ์จะมองปรากฏการณ์จากหลายมุมมอง
- ลำดับขั้นตอน (Procedures): การคิดเชิงวิพากษ์เป็นกระบวนการอย่างมีลำดับขั้นตอน ขั้นตอนเหล่านี้รวมถึงการถามคำถาม การตัดสิน และการระบุสมมติฐาน
ลักษณะบางประการ ที่นักคิดเชิงวิพากษ์ต้องมี คือ (The Open University, 2022)
ความสามารถ (Abilities)
- วิเคราะห์ข้อโต้แย้ง ข้อเรียกร้อง หรือหลักฐาน
- ตัดสินหรือประเมินตามหลักฐาน
- การอนุมานโดยใช้เหตุผลแบบอุปนัยหรือนิรนัย
- ตัดสินใจและ/หรือแก้ปัญหาด้วยการใช้เหตุผล
นิสัย (Dispositions)
- ช่างสงสัย
- เปิดใจกว้าง
- ค้นหาความจริง
- เคารพหลักฐานและเหตุผล
- เคารพความชัดเจนและแม่นยำ
- เห็นคุณค่าของความยุติธรรม
- มองในมุมมองที่แตกต่าง และจะเปลี่ยนจุดยืนเมื่อมีเหตุผลเพียงพอ
3.กระบวนการ
กระบวนการคิดเชิงวิพากษ์มักใช้กับปัญหาที่ไม่ชัดเจน มีความซับซ้อน และไม่มีวิธีแก้ปัญหาหรือผลลัพธ์ที่แน่นอน กระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบซึ่งต้องใช้ความคิดเชิงวิพากษ์ มีดังนี้ (University of Florida, 2022)
- การตีความ (Interpretation) เมื่อมีปัญหาที่ต้องการแก้ไข หัวหน้าทีมหรือผู้นำเสนอจะอธิบาย ชี้แจงถึง ข้อเท็จจริง ปัญหา ความท้าทาย หรือสถานการณ์ต่อทีมตลอดจนวิธีแก้ไขปัญหาใด ๆ ที่ได้ลองก่อนหน้าและทำให้แน่ใจว่าสมาชิกในทีมทุกคนมีความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับปัญหา
- การวิเคราะห์ (Analysis) เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาอย่างละเอียด สำรวจความสัมพันธ์เชิงอนุมาน พิจารณามุมมอง ความเชื่อ สมมติฐาน และความคิดเห็นของแต่ละคน
- การอนุมาน (Inference) เพื่อระบุองค์ประกอบที่สมเหตุสมผลจำเป็นในการสรุปผล ทีมงานจะใช้ข้อมูล ข้อความ หลักการ หลักฐาน ความเชื่อ และความคิดเห็นจากช่วงการวิเคราะห์และระดมความคิดเห็น นี่เป็นเวลาที่จะระบุวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้และหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของแต่ละแนวทางแก้ไข
- การประเมิน (Evaluatuion) เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือของแนวทางแก้ไขปัญหา จากขั้นตอนการอนุมาน และทบทวนหลักฐานและแนวคิดใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนหน้า ประเมินวิธีแก้ปัญหาด้วยมุมมองใหม่ และตรวจสอบจุดอ่อนในเชิงตรรกะ
- การอธิบาย (Explanation) เพื่ออธิบายกระบวนการที่ทีมดำเนินการ ให้ได้มาซึ่งแนวทางแก้ไข การชี้แจงบริบทว่ากระบวนการคิดมีความเป็นมาอย่างไร
- การกำกับตนเอง (Self-Regulation) เพื่อตรวจสอบความคิดและประเมินอคติที่อาจเกิดขึ้น ประเมินการตัดสินเชิงอนุมานของทีมด้วยมุมมองในการตั้งคำถาม ยืนยัน ตรวจสอบ หรือเชื่อมโยงเหตุผลหรือผลลัพธ์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
4.การพัฒนาทักษะ
Walker Center for Teaching and Learning (2022) ได้ให้แนวทางการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ดังนี้
- การเรียนรู้ในรูปแบบการประชุม (Conference Style Learning) โดยครูไม่ได้ “สอน” ในชั้นเรียนแบบการบรรยาย แต่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการประชุม ผู้เรียนต้องอ่านเนื้อหาที่จำเป็นทั้งหมดอย่างละเอียดก่อนเรียน ผู้เรียนจะต้องถามคำถามซึ่งกันและกันและอภิปรายเกี่ยวกับคำถามเหล่านี้ ครูจะเป็นผู้ช่วยเสนอแนะ กำกับการอภิปราย ด้วยการตั้งคำถามเชิงกลยุทธ์ และช่วยเหลือผู้เรียนต่อยอดความคิดซึ่งกันและกัน
- เทคนิค CATS (Classroom Assessment Techniques) เป็นการประเมินในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามและส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ของผู้เรียน เช่น การมอบหมายให้เขียนบันทึกการเรียนรู้ เกี่ยวกับ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ได้เรียนรู้ในวันนี้, คำถามใดที่ยังคงอยู่ในใจมากที่สุด ฯลฯ โดยผู้สอนจะเลือกคำถามบางส่วนและเตรียมคำตอบสำหรับการประชุมชั้นเรียนครั้งต่อไป
- กลยุทธ์การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning Strategies) โดยการให้ผู้เรียนอยู่ในสถานการณ์การเรียนรู้แบบกลุ่ม ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมในการส่งเสริมการคิดเชิงวิพากษ์ ด้วยการสนับสนุนและคำติชมอย่างต่อเนื่องจากผู้สอนและผู้เรียนคนอื่นๆ ทำให้ผู้เรียนปฏิบัติงานอย่างกระตือรือร้น และเกิดคิดเชิงวิพากษ์มากขึ้น
- กรณีศึกษา/การอภิปราย (Case Study /Discussion Method) ผู้สอนนำเสนอกรณีศึกษา ต่อชั้นเรียนโดยไม่มีข้อสรุป ตั้งคำถามแล้วให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปราย สร้างข้อสรุปสำหรับกรณีนี้
- การตั้งคำถาม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถามระหว่างผู้เรียนในแต่ละกลุ่มย่อย การตั้งคำถามโดยผู้สอนหลังการบรรยาย เช่น “อะไรคือจุดแข็งและจุดอ่อนของ… จากนั้นร่วมกันอภิปรายคำถาม หรือ กำหนดให้ผู้เรียนเขียนคำถามเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย และนำคำถามมาตอบหรืออภิปรายในชั้นเรียน
- การมอบหมายงานเขียน (Written assignments) การเขียนเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ผู้กำหนดให้ผู้เรียนเขียนโต้เถียงประเด็นต่างๆอย่างรอบด้าน
- การสนทนา (Dialogues) มักทำเป็นกลุ่มย่อย มีบทบาทที่แตกต่างกัน เช่น ผู้นำ ผู้ให้ข้อมูล ผู้แสวงหาความคิดเห็น และผู้ไม่เห็นด้วย โดยผู้เรียน หรือผู้สังเกตการณ์ ต้องระบุมุมมองที่แตกต่างกันของผู้เข้าร่วมแต่ละคน ประเมินทักษะการใช้เหตุผล ตรวจสอบนัยทางจริยธรรมของเนื้อหา มองหาอคติ การมีอยู่หรือการยกเว้นหลักฐานสำคัญ การตีความทางเลือก การแสดงข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง และข้อผิดพลาดในการให้เหตุผล แต่ละกลุ่มต้องตัดสินใจว่ามุมมองใดสมเหตุสมผลที่สุด
- ใช้ความกำกวม (Ambiguity) ด้วยการให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกัน หรือหลากหลายทางเลือก ทำให้ผู้เรียนต้องคิด ประเมินผล และหาทางแก้ไข
การคิดเชิงวิพากษ์ เป็นทักษะอย่างหนึ่ง ที่สามารถสอนได้ สามารถเรียนรู้ได้และสามารถปรับปรุงได้ด้วยการฝึกฝน แต่เช่นเดียวกับทักษะอื่น ๆ เช่นการปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ ที่ไม่ได้เรียนรู้โดยการนั่งฟังบรรยายในห้องเรียน หากเกิดจากการลงมือกระทำอย่างสม่ำเสมอ ผ่านการจัดการเรียนรู้รูปแบบต่างๆซึ่งผู้สอนได้ออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้่ว
5.อ้างอิง
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2558). พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ร่วมสมัย. กองธรรมศาสตร์และการเมือง.
Beyer, B. K. (1995). Critical thinking. Phi Delta Kappa Educational Foundation.
Clarke, J. (2019). Critical Dialogues: Thinking Together in Turbulent Times. Policy Press.
Foundation for Critical Thinking. (2022, December 13). Defining Critical Thinking.
The Partnership for 21st Century Skills. (2022, December 13). Framework for 21st Century
Learning. https://static.battelleforkids.org/documents/p21/P21_Framework_Brief.pdf
World Economic Forum. (2022, December 6). The Future of Jobs Report 2020.
University of Florida. (2022). A Systematic Process for Critical Thinking.
Walker Center for Teaching and Learning. (2022, December 13). Critical Thinking and
Problem-Solving.https://www.utc.edu/academic-affairs/walker-center-for-teaching-and-learning/teaching-resources/pedagogical-strategies-and-techniques/ct-ps
The Open University. (2022, December 13). Fundamental aspects of critical thinking.